บทความนี้จะนำเสนอ 7 ข้อดีของการใช้ OneTrust ที่จะช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลและความเป็นส่วนตัวขององค์กรของคุณ
1. การปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ของประเทศไทย
OneTrust มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) ของประเทศไทยได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การจัดการสิทธิของเจ้าของข้อมูล การจัดการคำร้องขอ การแจ้งเตือนการละเมิด ไปจนถึงการประเมินผลกระทบต่อ
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPIA) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย แต่ยังสร้างความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนบุคคล
อีกด้วย
2. สร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า
OneTrust ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กร เพราะแสดงถึงการให้ความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งการจัดเก็บข้อมูลแบบโปร่งใส การจัดการสิทธิการเข้าถึง การแจ้งเตือนการถูกละเมิดข้อมูล และการประเมินความเสี่ยง ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ ความมั่นใจให้กับลูกค้าและบุคคลที่สาม
3. ลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูล
OneTrust ช่วยในการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการละเมิดข้อมูล
และความเสียหายที่อาจตามมา ทั้งในด้านชื่อเสียงและการเงิน
4. เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
การจัดเก็บข้อมูลรูปแบบเดิมที่อาจลักษณะ กระดาษ หรือข้อมูลในไฟล์ Excel ที่กระจัดกระจาย หลายแผนก ข้อมูลไม่สอดคล้องกัน
ยากในการติดตามข้อมูลและใช้เวลานาน
OneTrust ช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความซับซ้อนของข้อมูลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
5. รองรับทุกขนาดธุรกิจ
OneTrust เป็นแพลตฟอร์มที่ปรับขนาดได้ สามารถรองรับความต้องการของธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
6. ทีมสนับสนุนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ
OneTrust มีทีมสนับสนุนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในการใช้งานแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่
7.ความเป็นผู้นำตลาดของ OneTrust
OneTrust ผู้นำตลาดในการจัดการความเป็นส่วนตัวและการกำกับดูแลข้อมูล ซึ่งไม่เพียงแต่ครอบคลุมกฏหมาย PDPA ของไทย แต่ยังครอบคลุมกฎหมายความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยหลายร้อยฉบับทั่วโลก อาทิ CCPA, GDPR, ISO27001