Recent Stories

ระบบ DNS และประเภทของเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่คุณควรรู้

การเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่เราทำกันจนเคยชิน แต่น้อยคนจะรู้ว่าเบื้องหลังการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ลงในเบราว์เซอร์นั้น    มีระบบที่ซับซ้อนทำงานอยู่ ระบบนี้คือ DNS หรือ Domain Name System ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำพาเราไปสู่หน้าเว็บที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
 

DNS คืออะไร?

DNS (Domain Name System) เป็นระบบที่ทำหน้าที่แปลงชื่อโดเมนที่มนุษย์อ่านและจดจำได้ง่าย เช่น softdebut.com ให้กลายเป็น
IP Address (เช่น 192.0.2.1) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ที่ต้องการได้ แม้ว่ากระบวนการแปลงนี้
จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีความซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด
 

ระบบ-DNS-และประเภทของเซรฟเวอร-DNS-ทคณควรร.png


ประเภทของเซิร์ฟเวอร์ DNS

เซิร์ฟเวอร์ DNS แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีบทบาทเฉพาะในการแปลงชื่อโดเมนเป็น IP Address ดังนี้
 
1.DNS Recursive Resolver DNS Recursive Resolver หรือ DNS Recursor เป็นตัวกลางระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ DNS
อีกสามประเภทที่เหลือ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อโดเมนและ IP Address ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้อุปกรณ์ของคุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ต้องการได้ เมื่อคุณพิมพ์ชื่อโดเมน (เช่น nordvpn.com) ในเบราว์เซอร์ DNS Recursor จะตรวจสอบแคชของตัวเองก่อนว่าคุณเคยเข้าชมเว็บไซต์นั้นมาก่อนหรือไม่ ถ้าเคย ข้อมูล IP Address จะถูกดึงจากแคชเพื่อเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ได้ทันที แต่หากเป็นการเยี่ยมชมครั้งแรก DNS Recursorจะต้องส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS อีกสามประเภทเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
 
2.DNS Root Nameserver DNS Root Nameserver เป็นจุดแรกที่ DNS Recursor ส่งคำขอเพื่อค้นหา IP Address ของเว็บไซต์ เซิร์ฟเวอร์ Root จะตรวจสอบส่วนขยายของโดเมน (เช่น ".com", ".net", ".org") และแจ้งให้ DNS Recursor ทราบว่าเซิร์ฟเวอร์ TLD ใดที่ควรตรวจสอบ
ต่อไป
 
3.TLD Nameserver TLD Nameserver เก็บข้อมูลเกี่ยวกับโดเมนที่มีส่วนขยายเหมือนกัน เช่น ".com", ".org" หรือส่วนขยายอื่น ๆ หลังจุด
ใน URL เซิร์ฟเวอร์ TLD มีหน้าที่รับผิดชอบข้อมูลของเว็บไซต์ที่มีส่วนขยายเดียวกัน โดย TLD Nameserver แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ
Generic TLD เช่น .com, .org, .edu และ Country-Code TLD เช่น .uk, .ca, .us
DNS Recursor จะสอบถามเซิร์ฟเวอร์ TLD เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ Authoritative ที่ควรติดต่อถัดไป
 
4.Authoritative Nameserver Authoritative Nameserver เป็นจุดสุดท้ายที่ DNS Recursor จะค้นหาเพื่อหาที่อยู่ IP ที่ถูกต้อง โดเมนใหม่
ทุกโดเมนจะต้องลงทะเบียนกับเซิร์ฟเวอร์ Authoritative ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อโดเมนและ IP Address ที่สอดคล้องกัน โดยข้อมูลเหล่านี้
ถูกเก็บรวบรวมจาก DNS Record เมื่อ DNS Recursive Resolver ได้จับคู่ชื่อโดเมนกับ IP Address ที่ถูกต้องแล้ว ข้อมูลจะถูกบันทึกในแคช
เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับโดเมนเดิมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในครั้งถัดไป
 
การทำความเข้าใจโครงสร้างและการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ DNS แต่ละประเภทช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของกระบวนการที่ซับซ้อนเบื้องหลังการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ ระบบ DNS ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยอาศัยการทำงานร่วมกันของเซิร์ฟเวอร์หลายประเภท ตั้งแต่ DNS Recursive Resolver ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหา ไปจนถึง Authoritative Nameserver ที่เป็นแหล่งข้อมูลสุดท้าย ทำให้เราสามารถท่องเว็บได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยไม่ต้องจดจำตัวเลข IP Address ที่ยุ่งยากซับซ้อน

 


20/12/2567
จากคนธรรมดาเป็นผู้พิทักษ์ไซเบอร์ "สร้าง Human Firewall ให้กับองค์กรของคุณ" ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์และการโจมตีที่ใช้เทคนิคทางวิศวกรรมสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น มาตรการความปลอดภัยที่เน้นมนุษย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้การป้องกันทางเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญ แต่แนวป้องกันแรกและสำคัญที่สุดมักอยู่ที่การตื่นตัวและความรู้ด้านความปลอดภัยของแต่ละบุคคล หรือที่เรียกว่า "Human Firewall" กลยุทธ์ที่เน้นคนเป็นหลักนี้จะช่วยให้บุคคลมีความสามารถในการเสริมสร้างความปลอดภัยในโลกออนไลน์ให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี
ดู 999 ครั้ง
16/12/2567
ปกป้องธุรกิจคลาวด์จาก DDoS กลยุทธ์รับมือภัยคุกคามยุคดิจิทัล ภัยคุกคามทางไซเบอร์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่องค์กรต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รายงานล่าสุดจาก Radware เผยว่า การโจมตี DDoS เพิ่มขึ้นถึง 200% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจทั่วโลก
ดู 999 ครั้ง
13/12/2567
ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่มีวันล่มด้วยการป้องกัน Downtime จาก Cloudflare การที่เว็บไซต์ของคุณไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเกิด Downtime เป็นสิ่งที่ทุกเจ้าของเว็บไซต์กลัวที่สุด เนื่องจากไม่เพียงแค่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สูญเสียรายได้และความน่าเชื่อถือ Cloudflare จึงเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการป้องกันปัญหานี้ ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ล้ำสมัย Cloudflare ทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและไม่มี Downtime มาดูกันว่า Cloudflare ทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
ดู 999 ครั้ง