องค์กรทั่วโลกกำลังเร่งนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มความยืดหยุ่น และลดต้นทุนด้านไอที แต่การเปลี่ยนแปลงนี้นำมาซึ่งความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อข้อมูลและระบบถูกย้ายไปอยู่บนคลาวด์ ช่องโหว่ใหม่ๆ อาจเปิดโอกาสให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ที่ร้ายแรง
ตัวเลขจาก SentinelOne ชี้ให้เห็นว่า 23% ของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์มีสาเหตุมาจากการตั้งค่าที่ผิดพลาด โดยมักเกิดจากการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงที่ไม่รัดกุมหรือเปิดกว้างเกินความจำเป็น นอกจากนี้ 80% ขององค์กรรายงานว่าการโจมตีระบบคลาวด์มีความถี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่น่ากังวลคือหนึ่งในสามของกรณีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับข้อมูลรั่วไหล ซึ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจและอาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บทความนี้จะพาคุณสำรวจความเสี่ยงหลักของระบบคลาวด์และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อปกป้ององค์กรของคุณจากภัยคุกคามเหล่านี้
1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนระบบคลาวด์
ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) อาจมีมาตรการความปลอดภัยชั้นเยี่ยม แต่จุดอ่อนมักอยู่ที่องค์กรผู้ใช้เอง การขาดความเข้าใจหรือการตั้งค่าที่ไม่เหมาะสมสามารถเปิดช่องให้ภัยคุกคามเข้ามาได้ ความเสี่ยงหลักที่ควรให้ความสนใจ มีดังนี้:
1.1 การตั้งค่าที่ผิดพลาด (Misconfiguration)
ตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาความปลอดภัยบนคลาวด์ถึง 23%
ลองนึกภาพว่าคุณเปิด S3 Buckets (AWS), Blob Storage (Azure) หรือ Cloud Storage (Google Cloud) ให้เข้าถึงได้โดยไม่มีการป้องกัน ข้อมูลลับขององค์กรอาจถูกใครก็ได้เข้ามาดูและนำไปใช้
การเปิด Remote Access Ports โดยไม่มีการกรองหรือจำกัดการเข้าถึง เปรียบเสมือนการปล่อยประตูบ้านเปิดทิ้งไว้ให้ผู้บุกรุกเดินเข้ามาได้
1.2 การเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
รหัสผ่านที่คาดเดาง่ายหรือการไม่ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) เปรียบเสมือนกุญแจบ้านที่ทำเลียนแบบได้ง่าย
การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง (IAM) ที่หละหลวม อาจทำให้พนักงานหรือบุคคลภายนอกเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยไม่มีขอบเขต
1.3 การโจมตีแบบ Ransomware และ Malware บนคลาวด์
แรนซัมแวร์สามารถแพร่กระจายไปยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและเครื่องเสมือน (VMs) บนคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว หากขาดการป้องกันที่เหมาะสม
ผู้โจมตีมักใช้กลยุทธ์ฟิชชิงผ่านอีเมลหรือสคริปต์อันตรายเพื่อแทรกซึมเข้าสู่ระบบคลาวด์ของคุณ
1.4 ข้อมูลรั่วไหลและการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Data Leaks & Privacy Breach)
เหตุการณ์ความปลอดภัยบนคลาวด์หนึ่งในสามเกี่ยวข้องกับข้อมูลรั่วไหล ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การแชร์ลิงก์ที่ไม่มีการป้องกัน, การตั้งค่า ACL ผิดพลาด, หรือ API ที่ขาดความปลอดภัย
การเก็บข้อมูลสำคัญโดยไม่เข้ารหัส ทั้งข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลทางการเงิน เท่ากับเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย
2. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์
ด้วยความเสี่ยงที่กล่าวมา องค์กรควรดำเนินการตามแนวทางต่อไปนี้เพื่อยกระดับความปลอดภัยของระบบคลาวด์:
2.1 การตั้งค่าคลาวด์ให้ปลอดภัย
✅ ตรวจสอบการตั้งค่าการเข้าถึงอย่างสม่ำเสมอ – ปิดช่องทางการเข้าถึงสาธารณะที่ไม่จำเป็นและกำหนด IAM Roles ที่รัดกุม
✅ ยึดหลัก Least Privilege Access – จำกัดสิทธิ์ให้ผู้ใช้แต่ละคนมีเพียงเท่าที่จำเป็นต่อการทำงาน ไม่มากกว่านั้น
✅ นำ Cloud Security Posture Management (CSPM) มาใช้ – เพื่อค้นหาและแก้ไขการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
2.2 การเข้ารหัสข้อมูลบนคลาวด์
✅ ใช้การเข้ารหัสข้อมูลทั้งในขณะจัดเก็บและขณะส่งผ่าน ด้วยมาตรฐาน AES-256 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในปัจจุบัน
✅ บังคับใช้ HTTPS และ TLS เวอร์ชันล่าสุด (1.2 หรือ 1.3) เพื่อปกป้องการรับส่งข้อมูลระหว่างเครือข่าย
✅ จัดการกุญแจเข้ารหัสอย่างปลอดภัยด้วย Key Management System (KMS) เพื่อควบคุมการเข้าถึงกุญแจอย่างเป็นระบบ
2.3 การควบคุมการเข้าถึงและยืนยันตัวตน
✅ เพิ่มความแข็งแกร่งด้วย Multi-Factor Authentication (MFA) สำหรับผู้ใช้ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแอดมินหรือผู้ใช้ทั่วไป
✅ จัดการ Identity and Access Management (IAM) อย่างเข้มงวด – กำหนดและทบทวนสิทธิ์ให้เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบ
✅ ใช้ Cloud Access Security Broker (CASB) เพื่อสอดส่องพฤติกรรมที่ผิดปกติและการใช้งานที่น่าสงสัย
2.4 การตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคาม
✅ ติดตั้งระบบตรวจจับและป้องกันการบุกรุก (IDS และ IPS) เพื่อเฝ้าระวังกิจกรรมที่เป็นอันตราย
✅ วิเคราะห์ Log Files ด้วย SIEM (Security Information and Event Management) เพื่อตรวจจับรูปแบบการโจมตีได้ทันท่วงที
✅ เตรียม Incident Response Plan ให้พร้อม เพื่อรับมือเหตุการณ์ความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
2.5 การสำรองข้อมูลและการกู้คืนระบบ
✅ ตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ และแยกเก็บข้อมูลสำรองในพื้นที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการสูญหายหรือถูกทำลาย
✅ วางแผน Disaster Recovery (DRP) ให้รอบคอบ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้แม้เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลหรือระบบล่ม
✅ ทดสอบกระบวนการกู้คืนข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริงเมื่อจำเป็น
ระบบคลาวด์มอบความคล่องตัวและประสิทธิภาพให้กับองค์กร แต่ความปลอดภัยต้องมาควบคู่กันเสมอ การละเลยมาตรการความปลอดภัยอาจนำไปสู่ความเสียหายทั้งทางธุรกิจและชื่อเสียง องค์กรที่ชาญฉลาดควรให้ความสำคัญกับการตั้งค่าที่ปลอดภัย การเข้ารหัสข้อมูลที่เหมาะสม การควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด การตรวจสอบภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง และการสำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบ
การนำแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้องค์กรของคุณใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสำคัญ ยิ่งเตรียมพร้อมมากเท่าไร ความเสี่ยงยิ่งลดลงเท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.sentinelone.com/cybersecurity-101/cloud-security/cloud-security-statistics
https://www.tangerine.co.th/blogs/tenable-cloud-risk-report-2024